จอมกษัตริย์นาคา 9 พระองค์ "พญามุจรินทร์นาคราช"
พญามุจรินทร์นาคราช
ครั้งล่วง ๗ วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมานพ
เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า"ความสงัดเป็นสุข
สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง
ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด
คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ
คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง"
ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จออกจากร่มไม้มุจลินท์ ไปยังร่มไม้เกตุ
อันมีนามว่า"ราชายตนะ"อันอยู่ในทิศทักษิณ แห่งต้นมหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุข
ณ ที่นั้น สิ้น ๗ วัน เป็นอวสาน ในกาลนั้น ท้าวสักกะอมรินทราธิราช ทรงดำริว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้เสวยพระกระยาหารนับแต่กาลตรัสรู้มาได้ ๔๙ วันแล้ว
จึงได้เสด็จลงมาจากเทวโลก น้อมผลสมออันเป็นทิพยโอสถเข้าไปถวาย
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับผลสมอเสวย แล้วทรงสรีระกิจลงพระบังคม ทรงสำราญพระกายแล้ว
เสด็จเข้าประทับยังร่มไม้ราชายตนะพฤกษ์นั้น.
เมื่อพระพทุธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว
พระองค์ทรงใช้เวลาพักผ่อนลำดัง ๗
สัปดาห์ซึ่งเป็นการพักผ่อนในชั่วระยะเวลาอันสั้นเหลือเกินสำหรับผู้ที่ตรากตรำมานานถึง
๖ ปี การพักผ่อนของพระองค์ในคร้งนี้เรียกว่า 'เสวยวิมุตติสุข' คือการได้รับความสุขที่เกิดจากการหลุดพ้นจากกิเลสเรื่องเศร้าหมองใด
ๆ โดยเสด็จประทับในที่ ๗ แห่ง แห่งละ ๗ วัน
สัปดาห์ที่ ๑ ที่ต้นโพธิ์ (อัสสัตถพฤษ์) เป็นสถานที่ตรัสรู้นั้นเอง เสวยวิมุตติสุขด้วยการพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
สัปดาห์ที่ ๒ ที่ต้นไทร (อชปาลนิโครธ) ที่นี่มีพราหมณ์ หุหุกชาติมาทูลถามถึงพราหมณ์และธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์
สัปดาห์ที่ ๓ ที่ต้นจิก (มุจลินท์) ทรงพิจารณาว่า ความเงียบเป็นสุขของบุคคลผู้ปฎิบัติธรรม
สัปดาห์ที่ ๔ ที่ต้นเกต (ราชยตนะ) ที่นี่ได้มีนายพานิช คือ ตปุสสะ ปละภัลลิกะ นำข้าวสัตตุมาถวายแต่พระองค์ นับเป็นปฐมบิณฑบาตหลังจากรัสรู้แล้ว ได้แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระพุทธกับพระธรรมเป็นปฐมอุบาสกในพุทธกาล
สัปดาห์ที่ ๕ ที่อนิมมิสเจดีย์ (ทางด้านทิศอีกขอต้นโพธิ เพ่งพระเนตรโดยไม่กะพริบเลยตลอด ๗ วัน เพื่อคารวะต่อพระธรรม)
พญามุจรินท์นาคราช แผ่พังพานกำบังฝนถวายพระพุทธเจ้า เมื่อขณะเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นมุจลินท์ ฝนตกมากถึง ๗ วัน พญามุจรินท์นาคราช มาทำขนดกายรอบพระองค์ ๗ รอบ และแผ่พังพานกำบังฝนถวาน เพื่อป้องกันฝนตกและลม มิให้ถูกพระวรกายของพระพุทธเจ้า หลังจากฝนหายแล้ว พญามุจิรนท์นาคราช คลายขนดออกแปลงร่างเป็นมานพ มายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวพุทะสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกแต่มักจะสร้างแบบพระนั่งนตัวพญานาค ซึ่งเหมือนว่าเอาพญานาคเป็นบัลลังก์ เพื่อให้เกิดความสง่างาม คือคุ้มครองพระศาสดา
นาคสะดุ้ง ที่ราวบันไดโบสถ์ สร้างขึ้นตามความเชื่อถือ 'บันใดนาค' ด้วยความเชื่อดังกล่าว แม้ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ก้โดยบันไดแก้วมณีสีรุ้งที่เทวดาเนรมิตขึ้น และมีพญานาคจำนวน ๒ ตน เอาหลังหนุนบันไดไว้
สัปดาห์ที่ ๖ ที่รัตนจงกรมอยู่ระหวาต้นโพธิ์ กับอนิมมิสเจดีย์ที่พระองค์เสด็จจงกรม
สัปดาห์ที่ ๗ ที่เรือนแก้ว ทรงพิจารณธรรม
สัปดาห์ที่ ๑ ที่ต้นโพธิ์ (อัสสัตถพฤษ์) เป็นสถานที่ตรัสรู้นั้นเอง เสวยวิมุตติสุขด้วยการพิจารณาปฏิจจสมุปบาท
สัปดาห์ที่ ๒ ที่ต้นไทร (อชปาลนิโครธ) ที่นี่มีพราหมณ์ หุหุกชาติมาทูลถามถึงพราหมณ์และธรรมที่ทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์
สัปดาห์ที่ ๓ ที่ต้นจิก (มุจลินท์) ทรงพิจารณาว่า ความเงียบเป็นสุขของบุคคลผู้ปฎิบัติธรรม
สัปดาห์ที่ ๔ ที่ต้นเกต (ราชยตนะ) ที่นี่ได้มีนายพานิช คือ ตปุสสะ ปละภัลลิกะ นำข้าวสัตตุมาถวายแต่พระองค์ นับเป็นปฐมบิณฑบาตหลังจากรัสรู้แล้ว ได้แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระพุทธกับพระธรรมเป็นปฐมอุบาสกในพุทธกาล
สัปดาห์ที่ ๕ ที่อนิมมิสเจดีย์ (ทางด้านทิศอีกขอต้นโพธิ เพ่งพระเนตรโดยไม่กะพริบเลยตลอด ๗ วัน เพื่อคารวะต่อพระธรรม)
พญามุจรินท์นาคราช แผ่พังพานกำบังฝนถวายพระพุทธเจ้า เมื่อขณะเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นมุจลินท์ ฝนตกมากถึง ๗ วัน พญามุจรินท์นาคราช มาทำขนดกายรอบพระองค์ ๗ รอบ และแผ่พังพานกำบังฝนถวาน เพื่อป้องกันฝนตกและลม มิให้ถูกพระวรกายของพระพุทธเจ้า หลังจากฝนหายแล้ว พญามุจิรนท์นาคราช คลายขนดออกแปลงร่างเป็นมานพ มายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวพุทะสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกแต่มักจะสร้างแบบพระนั่งนตัวพญานาค ซึ่งเหมือนว่าเอาพญานาคเป็นบัลลังก์ เพื่อให้เกิดความสง่างาม คือคุ้มครองพระศาสดา
นาคสะดุ้ง ที่ราวบันไดโบสถ์ สร้างขึ้นตามความเชื่อถือ 'บันใดนาค' ด้วยความเชื่อดังกล่าว แม้ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ก้โดยบันไดแก้วมณีสีรุ้งที่เทวดาเนรมิตขึ้น และมีพญานาคจำนวน ๒ ตน เอาหลังหนุนบันไดไว้
สัปดาห์ที่ ๖ ที่รัตนจงกรมอยู่ระหวาต้นโพธิ์ กับอนิมมิสเจดีย์ที่พระองค์เสด็จจงกรม
สัปดาห์ที่ ๗ ที่เรือนแก้ว ทรงพิจารณธรรม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น